วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ประวัติของตรีโกณมิติ




ประวัติของตรีโกณมิติ


           ตรีโกณมิติ(Trigonometry)ไม่มีใครรู้ว่าเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อใด ใครเป็นผู้คิดค้นหรือเกิดจากชนชาติใด แต่มีการพบบันทึกที่อยู่ใน Rhind papyrus (กระดาษกกที่พบ ณ เมือง Rhind) ที่เขียนไว้เกี่ยวกับcotangent ของมุมที่ฐานของพีระมีด และพบตารางด้านทั้งสามของรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก บนแผ่นดินเหนียวของชาวบาบินโลน(Plimpton 322) ในตารางเมื่อกำหนดด้านสองด้านของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากจะบอกความยาวของด้านที่สาม และน่าสังเกตว่าเป็นค่าของ secants ถ้าได้ศึกษาคณิตศาสตร์สมัยเมโสโปเตียเมียโบราณอาจพบว่า มีการใช้ตรีโกณมิติมาตั้งแต่สมัยนั้นก็ได้ แต่จากการบันทึกข้อมูลการสังเกตดวงดาวของนักดาราศาสตร์ชาวบาบิโลนหลัง 400 ปีก่อนคริสตกาล ชาวกรีกได้น าข้อมูลเหล่านี้มาใช้ศึกษาดาราศาสตร์ อันเป็นจุดเริ่มต้นการศึกษาตรีโกนักคณิตศาสตร์มุสลิมในยุคกลาง (หรือยุคมืด ตามคำเรียกของชาวยุโรป) มีส่วนเป็นอย่างมากในการพัฒนาและอุทิศผลงานคณิตศาสตร์สาขาตรีโกณมิติ 
          พวกเขาได้รับแนวคิดพื้นฐานมาจากตำราคณิตศาสตร์อินเดียที่ชื่อ Sūrya Siddhānta (สูรยสิทธานตะ)ตำราอัลมาเกส (เป็นภาษาอาหรับแปลว่ายิ่งใหญ่ที่สุด แสดงให้เห็นว่านักคณิตศาสตร์อาหรับยกย่องหนังสือเล่มนี้มาก) ของทอเลมีนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงชาวกรีก ตำราสเฟียริก ของเมเนลาอุสนักคณิตศาสตร์ชาวกรีกเช่นกันอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่านักคณิตศาสตร์กรีกและอินเดียจะมีบทบาทในการพัฒนาตรีโกณมิติ แต่ทว่านักประวัติศาสตร์คณิตศาสตร์หลายท่าน ได้ให้เกียรตินักคณิตศาสตร์อาหรับว่า เป็นผู้พัฒนาความื่อ 640-546 ปี ก่อนครีสต์ศักราช ทาเรส (thales)คำนวณหาความสูง ของพีรามิด ในประเทศอียิปต์โดยอาศัยเงา วิธีหนึ่งที่ทาเรสใช้คือคำนวณความสูงของพีรามิดจากความยาวของเงาของพีรามิด ในขณะที่เงาของเขามีความยาวเท่ากับความสูงของเขาเองอีกวิธีหนึ่งที่ทาเรสใช้คำนวณความสูงของพีรามิดคือ การเปรียบเทียบความยาวของเงาของพีรามิดกับความยาวของเงาของไม้(ไม้ที่ทราบความยาว ถ้าสมัยนี้ก็คือไม้เมตรนั่นเอง)  โดยอาศัยรูปสามเหลี่ยมคล้าย ซึ่งก็คือ  อัตราส่วนตรีโกณมิติที่เรียกว่า แทนเจนต์(tangent)  ก่อนจะไปศึกษาควรรู้จัก สมบัติของสามเหลี่ยมมุมฉากก่อน



สมบัติของสามเหลี่ยมมุมฉาก

         รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก (right, right-angled, rectangled) มีมุมภายในมุมหนึ่งมีขนาด 90° (มุมฉาก) ด้านที่อยู่ตรงข้ามกับมุมฉากเรียกว่า ด้านตรงข้ามมุมฉาก ซึ่งเป็นด้านที่ยาวที่สุดในรูปสามเหลี่ยมอีกสองด้านเรียกว่า ด้านประกอบมุมฉาก ความยาวด้านของรูปสามเหลี่ยมมุมฉากสัมพันธ์กันตามทฤษฎีบทพีทาโกรัส นั่นคือกำลังสองของความยาวของด้านตรงข้ามมุมฉาก c จะเท่ากับผลบวกของกำลังสองของด้านประกอบมุมฉาก a, b 
       

9 ความคิดเห็น: